ศึกใหญ่ไฟลุก! “ซุปเปอร์บอน” ปะทะ “โจ”, “ทาเครุ” รีเทิร์นหวด “แบล็คแพนเธอร์” นำทัพ ONE ลุมพินี 81
เผยโฉม 3 คู่มวยสุดเดือดออกมาเรียกน้ำย่อยแฟนมวยทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อย สำหรับรายการใหญ่ประจำไตรมาส 3 ที่ทุกคนตั้งตารอคอย ศึก ONE ลุมพินี 81 ที่จะจัดขึ้น ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 27 ก.ย.67
เริ่มที่คู่เอกนำรายการเป็นการพบกันของ 2 อดีตผู้ท้าชิงบัลลังก์มวยไทย ระหว่าง “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) เฉพาะกาล วัย 33 ปี จากพัทลุง ที่เตรียมกลับมาโชว์สกิลมวยไทยหนที่ 2 ใน ONE พบกับ “โจ ณัฐวุฒิ” นักชกอินดี้ วัย 35 ปี จากเมืองย่าโมโคราช ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงติดลมบน ในกติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต
สำหรับ “ซุปเปอร์บอน” ปัจจุบันรั้งตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 1 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต และฝากผลงานล่าสุดในกติกามวยไทย คือการขึ้นท้าชิงบัลลังก์จาก “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” ในศึก ONE ลุมพินี 46: ตะวันฉาย vs ซุปเปอร์บอน เมื่อเดือน ธ.ค.66 ซึ่งแม้ไฟต์นี้จะเป็นการกลับมาชกมวยไทยครั้งแรกในรอบหลายปี แต่จอมเตะก้านคอจากพัทลุง ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนจะพ่ายไปแบบหวุดหวิดด้วยคะแนนเสียงข้างมาก
หลังจากนั้น “ซุปเปอร์บอน” ได้โอกาสในการกลับมาชกในกติกาคิกบ็อกซิ่ง อีกครั้ง และสามารถพาตัวเองขึ้นไปนั่งบัลลังก์เฉพาะกาล ของรุ่นได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะคะแนนเอกฉันท์เหนือ “มารัต กริกอเรียน” คู่ปรับเก่าชาวอาร์เมเนีย ในศึก ONE ลุมพินี 58: ซุปเปอร์บอน vs มารัต เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
ด้าน “โจ ณัฐวุฒิ” ผู้ท้าชิงอันดับ 2 ของแรงกิง ได้แสดงฝีมืออันยอดเยี่ยมในศึก ONE 167: ตะวันฉาย vs โจ II เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยการเปิดศึกภาค 2 ท้าชิงเข็มขัดมวยไทยจาก “ตะวันฉาย” และสามารถต่อกรกับแชมป์โลกรุ่นน้องได้อย่างสนุกสุดมันตลอด 5 ยก ก่อนจะพลาดโอกาสคว้าตำแหน่งแชมป์มวยไทย มาครองเป็นครั้งแรกไปอย่างฉิวเฉียด หลังเป็นฝ่ายแพ้ไปด้วยคะแนนเสียงข้างมาก
โดยตลอดที่ผ่านมาแฟนมวยทั่วโลกต่างเรียกร้องอยากเห็น “ซุปเปอร์บอน” และ “โจ” ได้โอกาสวัดฝีมือกันสักครั้ง และด้วยศักดิ์ศรี ประกอบกับการพิสูจน์ตัวเองมาแล้วในฐานะผู้ท้าชิงบัลลังก์ของทั้งคู่ จึงทำให้ ONE จัดให้ทั้งคู่มาวัดฝีมือกันตามคำเรียกร้องของแฟน ๆ ทันที ในฐานะคู่เอกของรายการใหญ่ประจำไตรมาส 3 ศึก ONE ลุมพินี 81
โดยไฟต์นี้ถือได้ว่ามีความสำคัญต่อทั้ง “ซุปเปอร์บอน” และ “โจ” อย่างมากสำหรับการพิสูจน์ตัวเองในฐานะนักชกตัวท็อปของรุ่นนี้ โดยเฉพาะทางฝั่งของ “โจ” ที่หากสามารถโค่น “ซุปเปอร์บอน” ลงได้ จะยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจ ก่อนจะลุยงานใหญ่ที่จะต้องเปิดศึกไตรภาคเพื่อชิงเข็มขัดจาก “ตะวันฉาย” ในศึก ONE 169: Atlanta ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 9 พ.ย.67 ณ สังเวียนสเตต ฟาร์ม อารีนา เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
มาถึงคู่ไฮไลต์ที่ทุกคนห้ามพลาด “ทาเครุ เซกาวา” นักชกซูเปอร์สตาร์ วัย 32 ปี จากญี่ปุ่น ได้โอกาสคัมแบ็กกลับมาโชว์ฝีมืออีกครั้ง โดยจะพบกับ “แบล็คแพนเธอร์” นักสู้อาวุธครบมือ วัย 24 ปี จากสงขลา ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝักคว้าชัยมาแล้ว 3 ไฟต์ติด โดยจะสู้กันในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.)
สำหรับ “ทาเครุ” ผู้ถูกยกให้เป็นหนึ่งในนักชกคิกบ็อกซิ่งเก่งกาจที่สุดในโลกเมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์ ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมสังกัด ONE เมื่อเดือน เม.ย.65 และเปิดตัวครั้งแรกในศึก ONE 165: ซุปเปอร์เล็ก vs ทาเครุ ที่จัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ในฐานะผู้ท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ของ “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” นักชกขวัญใจคนไทย วัย 28 ปี จากบุรีรัมย์
แม้ผลการแข่งขันในวันนั้น “ทาเครุ” จะตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป แต่ด้วยลีลาการต่อสู้ แบบทุ่มสุดตัวบนสังเวียน จึงทำให้เจ้าตัวเข้าไปนั่งอยู่ในใจแฟนมวยทั่วโลกทันที โดยการกลับมาในรอบกว่าครึ่งปีครั้งนี้ “ทาเครุ” พร้อมระเบิดฝีมือระดับโลกให้ทุกคนเห็นอีกครั้ง โดยหวังประเดิมชัยชนะแรกใน ONE เหนือนักชกเจ้าถิ่น บนผืนแผ่นดินไทยให้ได้
ขณะที่ “แบล็คแพนเธอร์” ฟอร์มกำลังฮอตเกินต้านคว้าชัยมา 3 ไฟต์รวด โดยผลงานล่าสุดจัดการหวดก้านคอน็อก “อาลี ซาลโดเอฟ” ในศึก ONE Fight Night 23: เร ยุน vs อาลิเบก เมื่อ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามไฟต์นี้ “แบล็คแพนเธอร์” จะต้องข้ามสายมาชกภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกกับ ONE ซึ่งแม้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากสามารถหักปากกาเซียน เอาชนะซุปตาร์อย่าง “ทาเครุ” ลงได้ จะทำให้ชื่อเสียงของเขาดังไกลในระดับโลกทันที และช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ สู่ความสำเร็จนอกเหนือจากสายมวยไทยในอนาคต
อีกหนึ่งคู่เดือดเป็นการพบกันของ 2 อดีตราชันคิกบ็อกซิ่ง ระหว่าง “ฮิโรกิ อากิโมโตะ” อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) วัย 31 ปี จากญี่ปุ่น พบกับ “อิเลียส เอ็นนาฮาชิ” อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต วัย 28 ปี ชาวดัตช์-โมร็อกโก ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต
สำหรับ “ฮิโรกิ” ก้าวขึ้นไปนั่งบัลลังก์คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต เมื่อปี 2565 ก่อนจะพลาดท่าร่วงจากบัลลังก์ ตั้งแต่การป้องกันครั้งแรก หลังถูก “เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส” เบียดเอาชนะไปด้วยคะแนนไม่เอกฉันท์ในปีเดียวกัน ก่อนจะหวนกลับมาลงแข่งขันอีกครั้งพบกับ “เว่ย รุย” กำปั้นระดับตำนานชาวจีน ในศึก ONE Fight Night 22: สมิลลา vs นาตาเลีย เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังคงเรียกฟอร์มเก่งกลับมาไม่ได้ ต้องตกเป็นฝ่ายพลาดท่าพ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย
แน่นอนว่าไฟต์นี้ “ฮิโรกิ” ที่แพ้มา 2 ไฟต์ติดต่อกัน ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจำเป็นต้องทุ่มสุดตัวเพื่อเก็บชัยชนะ และรักษาตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 2 ของแรงกิงรุ่นแบนตัมเวต ของตนเองเอาไว้ให้ได้ต่อไป
ด้าน “อิเลียส” คว้าเข็มขัดแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต มาครองตั้งแต่ไฟต์เปิดตัวในปี 2562 ก่อนจะป้องกันบัลลังก์ได้ 2 สมัยติดต่อกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเอาชนะ “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” ราชันคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต คนปัจจุบัน ก่อนจะสละเข็มขัดเพื่อขยับรุ่นขึ้นมาสู้ในรุ่นแบนตัมเวต และยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการกดน็อก “เอเลียสการ์ โกดราทิสารัสกาน” ในศึก ONE ลุมพินี 6 เมื่อเดือน ก.พ.66
โดยการกลับมาโชว์ฝีมือในครั้งนี้ “อีเลียส” พร้อมที่จะแสดงฝีมือขั้นเทพออกมาให้ทุกคนเห็นอีกครั้ง ด้วยการโค่น “ฮิโรกิ” รักษาสถิติไร้พ่ายติดต่อกันเป็นไฟต์ที่ 5 และพาตัวเองเข้าไปอยู่ในแรงกิงของรุ่นนี้แทน
แฟนกีฬาการต่อสู้สามารถติดตามการประกาศคู่แข่งขันศึก ONE ลุมพินี 81 เพิ่มเติมได้ที่นี่